วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553



เป็ดตัวน้อยๆ



หมูน้อยๆ


เพาะพันธุ์หมูน้อย


ปลูกตะไคร้ 1 ไร่เศษ ทำเงินถึง 4 หมื่น
"ไม่มีความยากจน...ในหมู่คนขยัน" ท่านที่เคารพครับ!!! ช่องทางการประกอบอาชีพทางการเกษตรนั้นมีอยู่เยอะแยะมากมายเลยทีเดียว อยู่ที่ว่าเราจะสนใจไขว่คว้าหามันหรือเปล่า

ตะไคร้ เป็นอีกพืชหนึ่งที่หลายคนมองข้าม ไม่คิดสนใจที่จะปลูกเพื่อการค้า ทั้งที่ตะไคร้นั้นเป็น "พืชคู่ครัวของไทย" ที่นิยมใช้ปรุงแต่งอาหารให้เอร็ดอร่อยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้มยำ แกง ยำตะไคร้ และอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีการนำเอาตะไคร้ไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเชิงอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก เช่น ตะไคร้ผง และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เกษตรกรที่เห็นคุณค่าของมันหันมาปลูกเป็นการค้า ทำให้มีรายได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

อย่างเช่น นายอภิสิทธิ์ บัวระบัดทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 10 บ้านโนนหันใน ตำบลโนนหัน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ที่ปลูกตะไคร้เป็นอาชีพเสริมในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง และขายผลผลิตในช่วงแล้ง สามารถทำรายได้สูงประมาณ 40,000 บาท เลยทีเดียว

คุณอภิสิทธิ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาและแรงบันดาลใจในการปลูกตะไคร้ว่า "มีอาชีพหลักคือทำไร่อ้อยและทำนา ต่อมาก็สนใจอยากจะปลูกส้มโอเพราะว่ามีหลายคนปลูกแล้วได้ผลดี จึงซื้อส้มโอมาปลูกในปี 2547 จำนวน 50 ต้น ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง โดยใช้ระยะปลูก 6X8 เมตร หลังจากที่ปลูกส้มโอแล้ว จึงได้ตัดสินใจปลูกตะไคร้แซมช่องว่างระหว่างต้นและระหว่างแถวของส้มโอ เพื่อเสริมรายได้และลดการกำจัดวัชพืชในสวนส้มโออีกทางหนึ่งด้วย"

คุณอภิสิทธิ์ บอกว่า การปลูกตะไคร้นั้นไม่ยากเลย โดยเริ่มจากไถพรวนในช่องว่างระหว่างแถวของส้มโอ จากนั้นนำตะไคร้ลงปลูก จำนวน 3 ต้น ต่อหลุม ระยะปลูก 50X50 เซนติเมตร เมื่ออายุได้ 2 เดือน ก็กำจัดวัชพืช และก็ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ผสมกับยูเรีย (46-0-0) อย่างละเท่าๆ กัน หว่านให้ทั่วทั้งแปลง ซึ่งใช้ประมาณ 20 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1 ไร่ครึ่ง หากปลูกในช่วงฤดูฝนก็ไม่ต้องให้น้ำเลย จากนั้นไม่นานตะไคร้ก็จะเจริญเติบโตแตกกอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใบจะคลุมพื้นที่จึงไม่มีวัชพืชขึ้น ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัชพืชอีกเลย และเมื่ออายุได้ 5 เดือน ก็ใส่ปุ๋ยเคมีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 6 เดือน

การเก็บเกี่ยว โดยการขุดมาทั้งกอ นำมาตัดแต่งส่วนโคนและตัดปลายใบทิ้ง ให้ได้ความยาวของตะไคร้สำหรับส่งตลาดประมาณ 1 ฟุต จากนั้นบรรจุในถุงพลาสติก ถุงละ 10 กิโลกรัม ส่งขายให้กับแม่ค้าต่อไป

คุณอภิสิทธิ์ บอกว่า ขณะนี้เก็บผลผลิตทุกวัน วันละประมาณ 200 กิโลกรัม ขายส่งให้กับแม่ค้าที่ตลาดอำเภอชุมแพ วันละ 4-6 ราย สำหรับราคาขายนั้นในช่วงเดือนมีนาคม กิโลกรัมละ 5 บาท พอเดือนเมษายนได้ราคาดีขึ้นกิโลกรัมละ 8 บาท จึงคิดว่าช่วงฤดูแล้งเป็นช่วงที่ตลาดต้องการสูง ดังนั้น ในปีนี้จึงตั้งเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ปลูกตะไคร้ให้มากขึ้น คือประมาณ 5 ไร่ และจะให้มีผลผลิตออกในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ขายได้ราคาดี เพียงแค่ขายกิโลกรัมละ 5 บาท ก็คาดว่าจะทำรายได้เป็นเงินหลักแสนบาทอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การปลูกตะไคร้เพื่อให้ผลผลิตออกในช่วงฤดูแล้งนั้น ควรเป็นพื้นที่ที่ให้น้ำได้บ้าง โดยเฉลี่ยเดือนละ 2-3 ครั้ง จึงจะได้ผลดี

"ช่วงที่ผมปลูกตะไคร้ใหม่ๆ มีเพื่อนบ้านบอกว่า บ้าหรือเปล่าที่ปลูกตะไคร้เป็นไร่สองไร่ เพราะปกติแล้วจะมีคนปลูกกันเพียงไม่กี่กอ แต่ว่าตอนนี้ผมดีใจที่ตะไคร้สามารถทำรายได้เกินความคาดหมาย

" เป็นคำกล่าวของเจ้าของสวนตะไคร้แห่งอำเภอชุมแพ

ท่านที่เคารพครับ!!! จะเห็นว่า ตะไคร้พืชสมุนไพรใกล้ตัวนี้ เป็นอีกพืชหนึ่งที่สามารถสร้างงานทำเงินแก่เจ้าของได้เป็นอย่างดี คือทำรายได้และให้ผลตอบแทนต่อไร่ดีกว่าการทำนา หรือทำไร่หลายเท่าตัว การปลูก การดูแลรักษาก็ง่าย ต้นทุนก็ต่ำ สามารถปลูกได้ในหลายๆ สภาพพื้นที่ เช่น ปลูกเป็นแปลง หรือแซมในช่องว่างของไม้ผลที่ยังเล็กอยู่ ปลูกบนคันบ่อหรือปลูกบนคันนาก็ได้ จึงนับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับเกษตรกร ที่กำลังมองหาช่องทางการประกอบอาชีพทางการเกษตรอยู่ในขณะนี้
http://www.leksound.net/forum/index.php?topic=14570.0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น