การปลูกไม้กฤษณา ไม้กฤษณาเป็นไม้ในป่าเมืองร้อนที่ปลูกง่าย ปลูกได้ในดินหลายชนิด ทั้งดินเหนียว ดินร่วน และดินร่วนปนทราย ฯลฯ และปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว และสม่ำเสมอ จึงมีอายุยืนยาวหลายสิบปี เนื่องมาจากพันธ์กฤษณาได้มาจากการเพาะเมล็ด จึงมีระบบรากแก้วลึกลงไปในแนวดิ่ง มีรากแขนงและรากฝอยหาอาหารในระดับผิดดินดี พันธ์ไม้กฤษณาที่ปลูกควรมีความสูง 50 – 80 เซนติเมตรขึ้นไปหรือมีอายุอย่างน้อย 8 เดือน ถึง 1 ปี
การเตรียมดินปลูก
การเตรียมดินปลูกในที่ราบ ที่ราบเชิงเขา และที่ดินดอน ควรมีการไถเตรียมดินในช่วงฤดูแล้ว พอต้นฤดูฝนทำการไถพรวนแล้วขุดหลุม หรือไม่ต้องทำการไถพรวนแต่จะขุดหลุมระหว่างต้น ระหว่างแถวก็ได้ การขุดหลุมหลังการเตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ขุดหลุมกว้างยาวและลึกอย่างละ 50 เซนติเมตร และ 75 เซนติเมตร อย่างน้อยที่สุด 50 เซนติเมตร(1 ศอก) และแยกดินเป็นสองส่วน ชั้นบนแยกไว้ด้านหนึ่ง ชั้นล่างแยกไว้ด้านหนึ่งไม่ให้ปะปนกัน เมื่อขุดหลุมเสร็จแล้วตากดินแต่ละหลุมไว้ 15 – 20 วัน ต่อจากนั้นนำปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก 1 ปี ผสมเศษใบไม้แห้งผสมกับดินชั้นบนและดินชั้นล่างบางส่วน และควรใช้ปุ๋ยฟอสเฟส 0 – 3 – 0 ผสม 1 ช้อนโต๊ะด้วยเข้ากันให้ดีโดยเอาดินบนลง
การทำให้เกิดสารกฤษณา
การเปิดเปลือกไม้ออก |
การเปิดปากแผล เพื่อกระตุ้นให้เกิดสารกฤษณา |
ความจำเป็นในการวิจัยและพัฒนา
การที่ไม้กฤษณากำลังจะสูญพันธ์ไปจากป่าของประเทศไทย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระดมนักวิชาการที่เกี่ยวข้องหลาย ๆ สาขา เร่งทำการวิจัยเกี่ยวกับไม้กฤษณา โดยควรเน้นการวิจัยในเรื่องต่าง ๆ ต่อไปนี้
- การอนุรักษ์สายพันธุ์กฤษณา ทำการอนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมไว้ในสภาพธรรมชาติ หรือสะสมสายพันธุ์ต่างๆ ไว้ โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นมาดูแล
- เน้นการศึกษาการพัฒนาการปลูกไม้กฤษณาเพื่อการค้า โดยให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วม รวมทั้งการขยายพันธุ์เป็นปริมาณมากเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ
- เน้นการศึกษาการกระตุ้นให้ต้นกฤษณาสร้างกฤษณา โดยใช้การวิจัยและพัฒนาเป็นกรอบ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์
|
|
วัดดงกลาง ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด |
การเก็บผลผลิตจากไม้ปลูก
| |
|
ใช้สิ่วแกะแผลที่ได้ทำสารไว้ใส่ในภาชนะ |
ผลผลิตที่ได้จากไม้ปลูกที่มีสายน้ำมัน |
นำผลผลิตที่ได้จากไม้ปลูกมาชั่งน้ำหนัก |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น